มากกว่ามินิก็ไปฮาล์ฟ งานดีอย่างนี้มันต้องลอง
ขออนุญาตเล่า..อีกหนึ่งประสบการณ์กับการวิ่งทางไกล Half Marathon(21
กิโลเมตร) ครั้งแรกในชีวิตในงาน "ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ 2017"
เขาว่ากันว่า
Half Marathon แรกมีครั้งเดียว คงจะจริงอย่างเขาว่า 555
ก่อนวิ่งมีความสงสัยมากมาย อยากรู้ว่าตัวเองจะวิ่งถึงมั้ย วิ่งไหวมั้ย
วิ่งไกลขนาดนี้จะบาดเจ็บมั้ย อยากวิ่งแต่ไม่อยากเจ็บ
แล้วก็ไม่อยากพลาดรายการนี้ด้วย ^_^
ผมเป็นนักวิ่งหน้าใหม่
เพิ่งเคยลงงานวิ่งครั้งเดียว เป็น Mini Marathon (10 ก.ม.)
ที่มอหินขาวเมื่อปลายปีที่แล้ว ครั้งนั้นมันชั่งทรมาน ปวดขาอยู่เป็นอาทิตย์
รอบนี้เลยมีอาการแหยงๆกลัวเหตุการณ์ซ้ำรอย กลัวจะหายไม่ทันงานใหญ่อีกงาน
การสมัครก็สมัครผ่านเว็บเหมือนงานใหญ่ทั่วๆไป ถือว่าสะดวกพอสมควร
ขอนแก่นมาราธอนนานาชาติ28 มกราคม 2560
13.00
น.ไปรับ BIB ที่หอประชุม มข. บรรยากาศงานครึกครื้นดีครับ
มาวิ่งงานใหญ่ๆแบบนี้คนเยอะมากกกก สมกับเป็นงานนานาชาติจริงๆ
ได้เห็นการจัดงาน ได้เห็นการเตรียมพร้อม ได้เห็นผู้คนที่ชอบการวิ่ง
ได้เห็นเซเลปนักวิ่ง ได้เห็นนักวิ่งระดับโลก ได้เห็นร้านค้า
สินค้าอุปกรณ์การวิ่ง เพิ่มกิเลสได้มากมาย 555 ไปถึงจุดรับ BIB
เข้าแถวรอคิวรับ BIB ใช้เวลาประมาณ 30 นาที สำรวจสิ่งของในกระเป๋าที่ได้รับ
มีเสื้อวิ่ง ป้าย BIB ชิปจับเวลา เขาให้เช็คชิป ณ จุดนั้นเลย
ตรวจสอบว่าถูกต้องก็ออกมาเดินดูอุปกรณ์อีกเล็กน้อย ของเยอะอยู่นะ
แต่ขอบ่นนิดนึงเสื้อขนาด Over size มาก ปกติผมจะสวมเสื้อเบอร์ L
แต่งานนี้รับมาก็เบอร์ L ตามปกติ แต่มันใหญ่มาก
คงจะเก็บไว้ให้เพื่อนผู้รักการวิ่งต่อไป
**มาถึงแล้ว เป็นไงเป็นกัน พรุ่งนี้ลุยครับ**
จากนั้นก็ถึงเวลาหาที่
พักขับรถวนเล่นรอบนึงไปได้โรงแรมเล็กๆใกล้ตลาดต้นตาล โรงแรมใหม่มาก
ห้องพักห้องละ 450 บาท คุ้มค่าเกินราคา ปีหน้าถ้ามาวิ่งที่นี่อีก
คงจะมาพักที่นี่แหละ
ค่ำๆก็พาเด็กๆไปเดินเล่นชิลๆ
พร้อมกับทานข้าวกันที่ตลาดต้นตาลเรียบร้อยเลย
มาวิ่งที่ขอนแก่นนี่มันดีแบบนี้นี่เอง หุหุ อ่อ
ระหว่างเดินเล่นก็เจอเพื่อนหนุ่ม สุริยา จันทา จากโคราชก็มาวิ่งด้วย ขยันจริงๆเพื่อนเรา
29 มกราคม 2560
4.00 น. พอถึงวันวิ่งจริงตื่นเต้นเล็กน้อย กินแซนวิซดื่มน้ำตุนพลังงานไว้ ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย เดี๋ยวถ้าข้าศึกโจมตีระหว่างวิ่งมันจะไม่งาม เตรียมพร้อมทุกอย่าง ตรวจดูเส้นทางอีกรอบ
4.00 น. พอถึงวันวิ่งจริงตื่นเต้นเล็กน้อย กินแซนวิซดื่มน้ำตุนพลังงานไว้ ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย เดี๋ยวถ้าข้าศึกโจมตีระหว่างวิ่งมันจะไม่งาม เตรียมพร้อมทุกอย่าง ตรวจดูเส้นทางอีกรอบ
4.50
น.
ออกจากโรงแรมพอมาถึงจะเลี้ยวรถเข้าจุดปล่อยตัว....อ้าว....เฮ้ย...เข้าไม่ได้
เขาปิดถนน...ทำไงล่ะทีนี้ เวลาก็เหลือน้อยแล้วด้วย(ปล่อยตัว 5.25 น.)
อ้อมสิครับ ดีนะที่ยังพอรู้ทางอยู่บ้าง พอไปถึงเหลือเวลาอีก 15
นาทีปล่อยตัว เนื่องจากมาสายทำให้แถวข้างหน้าเต็มหมดแล้ว
ต้องไปต่ออยู่แถวหลังๆ ถึงตอนนี้ไม่มีเวลาวอร์มแล้ว ได้แค่ยืดเส้นยืดสาย
ยืดเหยียดกล้ามเนื้ออันน้อยๆ เปิดแอพวิ่งในโทรศัพท์ ตั้งเวลานาฬิกา
ใส่หูฟังเปิดเพลงแดนซ์มันๆ เตรียมตัววิ่ง....ดูเอาจริงนะนี่ หึหึ
5.25 น. ทันทีที่แตรสัญญาณปล่อยตัวดัง แป๊นนนนนน นักวิ่งต่างก็วิ่งงงงงง...อ่าวว..ไม่ใช่....เอ่อ..เดินครับ ทำไมต้องเดิน ต้องเดินก่อนเพราะคนเยอะมากประมาณ 2,000 คน เลยต้องค่อยๆไป เดี๋ยวชนกัน 555 กว่าจะผ่านเส้นสตาร์ทได้ใช้เวลานาทีครึ่ง หลังจากนั้นถึงเริ่มวิ่งได้ ก็วิ่งตามสเตปที่ซ้อมมา เนื่องจากอยู่แถวหลังและยังไม่ได้วอร์ม เลยต้องวิ่งช้าๆเก็บแรงไว้แต่ก็แซงไปเรื่อยๆ ถือโอกาสวอร์มไปในตัว อากาศก็เย็นสบายด้วย ประมาณ 19 องศาเหมาะแก่การวิ่งมาก
วิ่งมาเรื่อยๆถึงกิโลเมตรที่ 2 การหายใจและหัวใจเริ่มอยู่ตัว ก็เพิ่มความเร็วขึ้น วิ่งแซงมาเรื่อยๆ จนถึงกิโลเมตรที่ 5-6 ความเร็วเริ่มเท่าๆกับคนรอบข้าง คราวนี้ก็สลับกันแซงตามจังหวะ ถึงตอนนี้เริ่มแวะดื่มน้ำตามจุดบริการ วิ่งมาอีกหน่อยประมาณกิโลเมตรที่ 7 - 8 เห็นนักวิ่งผิวสีกลุ่มหนึ่งสวนมาแล้ว เฮ้ยยยยย...นี่พวกแกร..จะรีบไปหนายยยย ส่วนฝั่งทางนี้ก็วิ่งขึ้นมอกันต่อไป มอครับมอหรือเรียกอีกอย่างว่า"เนิน" เหอๆมอดินแดงมันช่างยาวไกลและหลายมอ กว่าจะผ่านได้แต่ละมอกินแรงพอสมควร แต่ยังไงก็ไม่โหดเท่ามอหินขาว
วิ่งๆไปใกล้ถึงจุดกลับตัวจะไปเจอกับนักวิ่ง Full Marathon ที่วิ่งอยู่อีกช่อง เขาวิ่งแซงเราแบบหน้าตาเฉยมาก ขณะที่ฝั่ง Half ของผมเริ่มมีเสียงหอบกันแล้ว นักวิ่งแซวกันเองเรียกเสียงฮาได้อีก 555 หลังจากกลับตัว ประเมินตัวเองแล้วแรงก็ยังดีอยู่ อยากจะเร่งความเร็วแต่ก็ยังไม่กล้าเร่งกลัวเป็นตะคริว เลยวิ่งไปเรื่อยๆ ใครจะแซงก็ปล่อยไป จนเลี้ยวเข้า มข.เจอกับกองทัพนักวิ่ง Mini Marathon โห....วิ่งกันเยอะมากกกกกกก
วิ่งไป ดูคนไป เพลินไป กองเชียร์ของน้องๆนักศึกษาสนุกสนานคึกคัก เพิ่มกำลังได้ดีแท้ วิ่งๆอยู่แวบเห็นอาจารย์หมอ นายแพทย์ปัญญา งานจัตุรัส วิ่งแซงไป หืม...อาจารย์แกวิ่งฟูลนี่ เริ่มรู้ตัวมัวช้าไม่ได้แล้ว คุณลุงที่วิ่งคู่กันข้างๆถามขึ้น เวลาเท่าไหร่แล้ว มองดูนาฬิกา อ้าว...เฮ้ย..ผ่านมาตั้ง 1 ชั่วโมง 40 นาทีแล้ว เหลืออีกตั้ง 5 ก.ม. บวกลบคูณหารเทียบกับแรงที่ยังมี กล่าวลาคุณลุง ผมไปก่อนนะครับ จากนั้นเร่งสปีดความเร็วขึ้นเพื่อที่จะเข้าเส้นชัยโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด ช่วงนี้แซงแหลก วิ่งไปเรื่อยๆ ใกล้เส้นชัยเริ่มหายใจหอบ บอกตัวเอง เอาละ แค่นี้พอละ ยังไงเวลาก็เกิน 2 ชม.แน่ๆ วิ่งเข้าเส้นชัยเงยหน้าดูเวลา 2 ชั่วโมง 5 นาที อารมณ์ตอนนั้นฟินสุดๆ ไม่เคยคาดคิดว่าตัวเองจะทำได้ งานนี้ประทับใจมากครับ ส่วนผลการวิ่งอยู่ในระดับ "พอใจมากถึงมากที่สุด" ชักเริ่มติดใจแล้วสิ ...งานหน้าเจอกัน "บุรีรัมย์มาราธอน" งานนี้งานใหญ่อีกงานจะไปเจอ "พี่ติ๊กกก"
5.25 น. ทันทีที่แตรสัญญาณปล่อยตัวดัง แป๊นนนนนน นักวิ่งต่างก็วิ่งงงงงง...อ่าวว..ไม่ใช่....เอ่อ..เดินครับ ทำไมต้องเดิน ต้องเดินก่อนเพราะคนเยอะมากประมาณ 2,000 คน เลยต้องค่อยๆไป เดี๋ยวชนกัน 555 กว่าจะผ่านเส้นสตาร์ทได้ใช้เวลานาทีครึ่ง หลังจากนั้นถึงเริ่มวิ่งได้ ก็วิ่งตามสเตปที่ซ้อมมา เนื่องจากอยู่แถวหลังและยังไม่ได้วอร์ม เลยต้องวิ่งช้าๆเก็บแรงไว้แต่ก็แซงไปเรื่อยๆ ถือโอกาสวอร์มไปในตัว อากาศก็เย็นสบายด้วย ประมาณ 19 องศาเหมาะแก่การวิ่งมาก
วิ่งมาเรื่อยๆถึงกิโลเมตรที่ 2 การหายใจและหัวใจเริ่มอยู่ตัว ก็เพิ่มความเร็วขึ้น วิ่งแซงมาเรื่อยๆ จนถึงกิโลเมตรที่ 5-6 ความเร็วเริ่มเท่าๆกับคนรอบข้าง คราวนี้ก็สลับกันแซงตามจังหวะ ถึงตอนนี้เริ่มแวะดื่มน้ำตามจุดบริการ วิ่งมาอีกหน่อยประมาณกิโลเมตรที่ 7 - 8 เห็นนักวิ่งผิวสีกลุ่มหนึ่งสวนมาแล้ว เฮ้ยยยยย...นี่พวกแกร..จะรีบไปหนายยยย ส่วนฝั่งทางนี้ก็วิ่งขึ้นมอกันต่อไป มอครับมอหรือเรียกอีกอย่างว่า"เนิน" เหอๆมอดินแดงมันช่างยาวไกลและหลายมอ กว่าจะผ่านได้แต่ละมอกินแรงพอสมควร แต่ยังไงก็ไม่โหดเท่ามอหินขาว
วิ่งๆไปใกล้ถึงจุดกลับตัวจะไปเจอกับนักวิ่ง Full Marathon ที่วิ่งอยู่อีกช่อง เขาวิ่งแซงเราแบบหน้าตาเฉยมาก ขณะที่ฝั่ง Half ของผมเริ่มมีเสียงหอบกันแล้ว นักวิ่งแซวกันเองเรียกเสียงฮาได้อีก 555 หลังจากกลับตัว ประเมินตัวเองแล้วแรงก็ยังดีอยู่ อยากจะเร่งความเร็วแต่ก็ยังไม่กล้าเร่งกลัวเป็นตะคริว เลยวิ่งไปเรื่อยๆ ใครจะแซงก็ปล่อยไป จนเลี้ยวเข้า มข.เจอกับกองทัพนักวิ่ง Mini Marathon โห....วิ่งกันเยอะมากกกกกกก
เห็นกล้องเราต้องสู้ ^_^
วิ่งไป ดูคนไป เพลินไป กองเชียร์ของน้องๆนักศึกษาสนุกสนานคึกคัก เพิ่มกำลังได้ดีแท้ วิ่งๆอยู่แวบเห็นอาจารย์หมอ นายแพทย์ปัญญา งานจัตุรัส วิ่งแซงไป หืม...อาจารย์แกวิ่งฟูลนี่ เริ่มรู้ตัวมัวช้าไม่ได้แล้ว คุณลุงที่วิ่งคู่กันข้างๆถามขึ้น เวลาเท่าไหร่แล้ว มองดูนาฬิกา อ้าว...เฮ้ย..ผ่านมาตั้ง 1 ชั่วโมง 40 นาทีแล้ว เหลืออีกตั้ง 5 ก.ม. บวกลบคูณหารเทียบกับแรงที่ยังมี กล่าวลาคุณลุง ผมไปก่อนนะครับ จากนั้นเร่งสปีดความเร็วขึ้นเพื่อที่จะเข้าเส้นชัยโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด ช่วงนี้แซงแหลก วิ่งไปเรื่อยๆ ใกล้เส้นชัยเริ่มหายใจหอบ บอกตัวเอง เอาละ แค่นี้พอละ ยังไงเวลาก็เกิน 2 ชม.แน่ๆ วิ่งเข้าเส้นชัยเงยหน้าดูเวลา 2 ชั่วโมง 5 นาที อารมณ์ตอนนั้นฟินสุดๆ ไม่เคยคาดคิดว่าตัวเองจะทำได้ งานนี้ประทับใจมากครับ ส่วนผลการวิ่งอยู่ในระดับ "พอใจมากถึงมากที่สุด" ชักเริ่มติดใจแล้วสิ ...งานหน้าเจอกัน "บุรีรัมย์มาราธอน" งานนี้งานใหญ่อีกงานจะไปเจอ "พี่ติ๊กกก"
...หลายๆคนก็คงสงสัยจะวิ่งอะไรนักหนา ทั้งเหนื่อยทั้งเมื่อยทั้งเจ็บ อยู่แบบสบายๆดีกว่า ก็ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรนี่ อยากให้เพื่อนๆลองออกมาวิ่งกันครับ แล้วจะรู้ว่าการวิ่งมันมีอะไรดี ทำไมถึงมีคนมาวิ่งมากมาย มีคนกล่าวไว้ "คุณไม่วิ่งคุณจะรู้อะไร" ตอนนี้ผมรู้แล้ว แล้วคุณล่ะ อยากจะรู้มั้ย
อายุเริ่มมากโรคเบาหวาน ความดัน ไขมัน โรคหัวใจ มันใกล้เข้ามาแล้ว มาวิ่งหนีกัน อย่าให้มันตามทัน อยากเห็นทุกคนมีสุขภาพดีครับ ผมวิ่งได้ คุณก็วิ่งได้ วันนี้พิมพ์ยาวมากขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ แล้วเจอกันที่สนามกีฬา มาวิ่งกันครับ ☺️
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น